‘Aladdin (1992)’ หรือในชื่อไทย ‘อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ’ ถือเป็นการ์ตูนในตำนานเรื่องหนึ่งของดิสนีย์เลยก็ว่าได้ ด้วยการผสมผสานวัฒนธรรมหลากหลายผ่านบทเพลงต่างๆ ที่ยังคงไม่หลุด Theme อาหรับราตรี ดูแปลกตาและมีเสน่ห์ อีกทั้งเรื่องราวในตำนานที่แสนตื่นเต้น ประทับใจ ที่แม้จะรู้จุดจบอยู่แล้วก็ดูไม่เบื่อ ไม่แปลกเลยที่ Aladdin จะเป็นการ์ตูนเรื่องโปรดของใครหลายคน
เรื่องย่อ Aladdin (1992)

Aladdin (1992) เป็นเรื่องราวของ ‘แอล’ หรือ ‘อะลาดิน’ เด็กหนุ่มกำพร้าเกิดในสลัม แอลเอาชีวิตรอดไปวันๆด้วยการลักขโมยอาหาร เขามักจะมาพร้อมกับคู่หูคู่ใจจอมป่วนอย่างลิงน้อยชื่อ ‘อาบู’ ทุกคนในย่านนั้นรู้จักแอลดีในฐานะหัวขโมย เด็กสลัมเนื้อตัวสกปรกต่ำต้อย เรื่องราวจับพลัดจับพลูให้แอลได้มาเจอกับนางเอกของเรื่อง ‘จัสมิน’ ลูกสาวสุรต่านแสนสวย หัวแข็ง เธอเกลียดกฎหมายของเมืองที่บังคับให้เธอต้องเลือกแต่งงานกับเจ้าชาย จึงหนีออกมาจากพระราชวัง อะลาดินและจัสมินพบรักกัน แต่ก็ต้องถูกจับแยกโดย ‘จาฟาร์’ ตัวร้ายประจำเรื่อง ซึ่งเป็นเหมือนมือขวาของสุรต่าน แต่แท้จริงแล้วคิดคดทรยศอยู่ตลอดเวลา จาฟาร์มีแผนจะครอบครองตะเกียงวิเศษ ซึ่งต้องใช้ผู้ที่เปรียบเสมือนเพชรในตมอย่างอาละดินเข้าไปเอาตะเกียงในถ้ำศักดิ์สิทธิ์ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นทำให้อาละดินได้พบกับตะเกียงวิเศษและยักษ์ฟ้าสุดกวนที่ติดอยู่ในตะเกียงอย่าง ‘จินนี่’ ผู้สามารถดลบันดาลทุกสิ่งตามที่ผู้ถือครองตะเกียงต้องการได้ เรื่องราวหลักๆหากใครเคยอ่านนิทานอาหรับราตรีมาแล้ว ก็คงจะพอรู้ว่าจุดจบของเรื่องเป็นอย่างไร ถึงจากนั้น Disney ก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ด้วยการผูกเรื่องราวเพิ่มเติมขยายความให้น่าตื่นเต้นมากขึ้น ทำให้ตัวละครต่างๆดูมีมิติ พร้อมทั้งใส่เอกลักษณ์ของดิสนีย์อย่าง ‘มิวสิคัล’ ลงไปด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่า เพลงของเรื่องนี้นับเป็นจุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้หลายคนจดจำได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะตัวละครแย่งซีนอยากจินนี่ ที่ออกมาร้องเพลงแต่ละทีจะมีการล้อเลียนเรื่องราวต่างๆ ดูนำสมัย กลับมาดูอีกกี่ครั้งก็รู้สึกไม่เก่า บทของตัวละครต่างๆในเรื่องยังทำออกมาลื่นไหล เฮฮา ตื่นเต้น บทจะเศร้าก็ซึ้งจริง แต่ในเรื่องยังคงมีความหวังเสมอ ดูแล้วโลกสดใสตามแบบฉบับการ์ตูน Disney

พูดถึงข้อเสียคงเป็นภาพการ์ตูนแนวคลาสสิคสมัยก่อน 2D เก่าๆ มีการเคลื่อนไหวได้ลื่นไหลก็จริง แต่รายละเอียดภาพไม่สวยงามเท่าการ์ตูนยุคนี้ แต่โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนมองว่า ภาพในเรื่อง Aladdin (1992) มีเสน่ห์ในแบบของมัน และข้อเสียอีกอย่างที่เป็นเหมือนดาบสองคม คือ จินนี่ ที่แม้จะเป็นตัวชูโรงของเรื่อง แต่บางครั้งก็ดูจะพูดมากไปจนน่ารำคาญ ไม่ดูกาลเทศะ แย่งบทคนอื่นไปหมด โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า Aladdin (1992) เหมาะสำหรับใครที่อยากดูการ์ตูนแนวสบายๆ เพลงเพราะตรึงใจ แนวโรแมนติก ผจญภัยในเมืองอาหรับ หากคุณกำลังตามหาสิ่งเหล่านี้อยู่ Aladdin (1992) ตอบโจทย์แน่นอน
