เจมส์กับลูกพีชยักษ์มหัศจรรย์ อนิเมชั่นที่ผสมผสานเทคนิคต่างๆอย่างลงตัว

ตื่นตาตื่นใจกับการผสมเทคนิคการทำหนังในเจมส์กับลูกพีชยักษ์มหัศจรรย์

เจมส์กับลูกพีชยักษ์มหัศจรรย์ เป็นอนิเมชั่นภาพยนตร์ของดิสนีย์ในยุค 90 ซึ่งจัดว่าเป็นผลงานรุ่นบุกเบิกระดับตำนานในวงการอนิเมชั่นเลยทีเดียว อย่างที่รู้กันดีว่าการทำสต็อปโมชั่นใช้เวลาและทรัพยากรเยอะ อีกทั้งยังต้องลงทุนมาก กว่าจะได้มาแต่ละเรื่อง ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้กำกับหัวหมอที่อยากทำอนิเมชั่นสต็อปโมชั่น แต่ไม่อยากลงทุนเกินตัว จึงนำเทคนิคต่างๆมาร่วมกันในหนัง เพื่อประหยัดงบทรัพยากรและเวลา ซึ่งเจมส์กับลูกพีชยักษ์มหัศจรรย์ก็เป็นเรื่องแรกๆในวงการที่กล้าทำแบบนี้ โดยเจมส์กับลูกพีชยักษ์มหัศจรรย์ เป็นเรื่องราวของ ‘เจมส์’ เด็กชายที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ ขณะที่เขาและครอบครัวกำลังปิคนิคอยู่ริมชายหาด จู่ๆเกิดฝนฟ้าคะนองลมพายุโหมกระหน่ำ ซึ่งเจมส์ได้สูญเสียพ่อแม่ของเขาไปในเหตุการณ์นั้น และถูกส่งตัวมาอยู่กับป้านิสัยแย่สองคน ‘สปันช์’ และ ‘สไปค์’ คู่หูจอมเกียจคร้านวันๆ  ไม่ทำอะไร นอกจากใช้งานเจมส์อย่างหนักหน่วงเยี่ยงทาส แถมยังเลี้ยงดูดีๆแบบเด็กคนอื่น เจมส์ช่างอาภัพ เพราะนอกจากจะไม่มีอิสระแล้ว ยังต้องบากบั่นทำงานทุกวัน ดีที่เขายังมีความฝันว่า สักวันนึงจะไปอยู่ในเมืองหลวงอย่างที่เคยคุยกับพ่อไว้ จนกระทั่งเจมส์ได้เจอกับชายคนหนึ่ง ซึ่งมอบของพิเศษ เรียกว่า ‘ลิ้นจระเข้’ ให้ แต่บังเอิญเจมส์ดันทำมันตกกระเด็น จึงเกิดอภินิหารลูกพีชที่ปลูกไว้บริเวณบ้านกลายเป็นลูกพีชยักษ์ รวมถึงเหล่าแมลงต่างๆที่เจมส์เคยช่วยไว้ ก็กลับมีขนาดตัวใหญ่ขึ้นแถมยังพูดได้ การผจญภัยเพื่อไปเมืองหลวงของเจมส์และผองเพื่อนแมลงพร้อมลูกพีชอันใหญ่ยักษ์จึงเริ่มขึ้น โดยรวมแล้วเรื่องนี้ มีการใส่เทคนิคต่างๆพอเหมาะลงตัว ไม่รู้สึกขัดอะไร และพาร์ทของสต็อปโมชั่นถือว่าเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งที่ทำออกมาได้ดีทีเดียว แต่ด้วยข้อเสีย คือ เรื่องราวแนวแฟนตาซีไม่มีที่มาที่ไป ขาดความลึกซึ้ง บทพูดของตัวละครคาดเดาง่าย ไม่น่าลุ้น จึงอาจทำให้คนดูอาจเผลอหลับระหว่างเรื่องได้ 

หากคุณเปิดใจดู เจมส์กับลูกพีชยักษ์มหัศจรรย์ แบบสบายๆ ไม่คาดหวังว่า อนิเมชั่นเทคนิคดี จะต้องมีเนื้อเรื่องดีไปด้วย คุณจะสามารถดูการ์ตูนเรื่องนี้ได้สนุก ทั้งยังถือเป็นอีกเรื่องที่ดูแล้วผ่อนคลาย  เหมาะสำหรับดูกับเด็กๆในครอบครัว 

#เจมส์กับลูกพีชยักษ์มหัศจรรย์ #การ์ตูนสำหรับเด็ด #การ์ตูนครอบครัว