การสร้างโลกแฟนตาซีอันเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตอัศจรรย์เหนือจิตนาการ ตำนาน และเวทย์มนต์ คงเป็นอะไรธรรมดาๆไปแล้วสำหรับ Pixer คราวนี้ ทางค่าย Pixar จึงได้ปล่อยผลงานเรื่องใหม่อย่าง ‘‘Onward ’’ หรือในชื่อไทย ‘‘คู่ซ่าล่ามนต์มหัศจรรย์’’ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่มีพื้นหลังอยู่ในโลกที่เคยเต็มไปด้วยความแฟนตาซี แต่เมื่อเทคโนโลยีได้พัฒนามากขึ้น เรื่องราวที่เหนือธรรมชาติจึงได้ลดบทบาทลง จนแทบไม่มีใครจดจำมันได้อีกแล้ว
การผจญภัยในแบบดาร์กแฟนตาชี

เมื่อนานมาแล้วในโลกของเรื่อง Onward ก็เป็นดินแดนสุดแสนแฟนตาซี ไม่ต่างกันเรื่องราวที่เราเคยรู้จักตามนิยายปรัมปรา ซึ่งในสมัยนั้นพลังเวทย์มนต์เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ มันสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง ทั้งการต่อสู้ การป้องกันภัยอันตราย การรักษา รวมทั้งมอบความสะดวกสบายหลายๆอย่าง เช่น ให้แสงสว่างตอนกลางคืน แต่ในความสุดยอดของพลังเวทย์มนต์นั้น กลับไม่ใช่สิ่งที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับการพัฒนาของวิทยาศาสตร์ที่ทำให้อะไรหลายๆอย่างให้ง่ายขึ้นได้ จากแต่ก่อนที่ต้องใช้สมาธิอย่างมากในการใช้เวทย์มนต์ให้ความสว่าง ตอนนี้แค่กดสวิตช์ไฟทีเดียวก็ได้แล้ว ซึ่งการพัฒนาของเทคโนโลยีก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนทุกคนคิดว่า เวทย์มนต์เป็นเพียงนิทาน แต่ไม่ใช่กับ “บาร์ลีย์ ไลต์ ฟุต” ที่มองว่าทุกคนในโลกยึดติดกับความสบายมากเกินไปจนหลงลืมศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง และเขาก็เชื่อแบบนั้นมากขึ้นเมื่อน้องชายของเรา “เอียน ไลต์ ฟุต” สามารถใช้เวทย์มนต์ได้จริงๆ ซึ่งเรื่องราวหลักๆของ Onward คือ การผจญภัยของสองพี่น้องเอียนและบาร์ลีย์ ในการตามหาอัญมณีฟินิกซ์ เพื่อจะเจอพ่อที่เสียไปตั้งแต่พวกเขายังเด็ก แม้ได้พบกันเพียงแค่วันเดียวก็ยังดี สำหรับจุดเด่นอย่างหนึ่งของเรื่อง Onward ที่แฟนๆมาร์เวลห้ามพลาด คือ ผู้ให้เสียงพากย์ทั้งสองตัวละครหลักนี้ คือ “ทอม ฮอลแลนด์” จากบทบาท Spider Men และ “คริส แพร็ตต์” จากบทบาท Star Lord ใน Guardians of the Galaxy

ต้องยอมรับว่า สิ่งที่ทำให้ Onward น่าสนใจตั้งแต่เปิดตัว คือ การสร้างโลกแฟนตาชีที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตเหนือจิตนาการอย่าง เปกาซัส, เอลฟ์, แฟรี่, คนครึ่งม้า ผสมกับสังคมแบบเดียวกับที่มนุษย์เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกความจริง แต่มันก็ไม่ใช่โลกที่เจริญจนสวยงามนัก ออกจะไปในทางดิสโทรเปียนิดๆ ซึ่งในมุมมองของผู้เขียนรู้สึกว่า มันเป็นการสร้างสรรค์ที่มีเสน่ห์จนอยากจะเห็นมุมมองอื่นๆ ส่วนเนื้อเรื่องนั้น อยู่ในระดับกลางๆ มีดราม่าเรียกน้ำตาตามแบบของ Pixer และมีข้อเสียเรื่องตัวละครน่าหงุดหงิด เพราะการกระทำ ความเป็นเด็ก ความคิดของตัวละคร ที่อาจทำให้คนดูรู้สึกเบื่อ แต่นั่นก็ไม่ได้กระทบต่อสิ่งที่เรื่องนี้พยายามจะสื่อถึงอย่างความสัมพันธ์ของครอบครัว
