‘Treasure Planet’ หรือ ‘เทรเชอร์ แพลเน็ต ผจญภัยล่าขุมทรัพย์ดาวมฤตยู’ เป็นอนิเมชั่นขอ Disney ที่ออกฉายปี 2002 ดัดแปลงมากจากผลงานเขียนในชื่อเดียวกันของ ‘Robert Louis’ มาในแนวที่เห็นไม่ค่อยบ่อยนักสำหรับ Disney คือโจรสลัดอวกาศ ผสมกับ Steam Punk ซึ่งในเรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กชายผู้โชดดีได้แผนที่ลายแทงขุมทรัพย์ของยอดโจรสลัดอวกาศในอดีต
การตามหา Treasure Planet ดวงดาวที่เป็นไปด้วยสมบัติ

Treasure Planet มีธีมอยู่ในโลกยุคอนาคตที่การพบเจอมนุษย์ต่างดาวและเดินทางระหว่างดาวเคราะห์เป็นเรื่องปกติ “จิม เฮาส์คิน” เป็นวัยรุ่นมีปัญหา เพราะถูกพ่อทิ้งไปตั้งแต่เด็ก ทำให้เขามักจะก่อเรื่องวุ่นๆมากมายให้แม่ของเขาต้องปวดหัว อย่างไรก็ดี จิมก็มีความฝันที่อยากเดินทางไปในอวกาศแบบในนิทานที่เขาเคยได้อ่านตั้งแต่เด็ก จนอยู่มาวันหนึ่ง มียานลำหนึ่งตกมาใกล้บ้านและมีชายบาดเจ็บนอนอยู่ข้างๆยาน จิมจึงพาเขาไปที่บ้านโดยไม่รู้เลยว่ามีคนกำลังตามล่าชายคนนั้นอยู่ สุดท้ายพวกที่ตามล่าก็ตามมาถึงบ้านของจิมพร้อมกับทำลายเผาทุกสิ่ง ก่อนที่ชายคนนั้นจะสิ้นใจเขาได้ทิ้งวัตถุทรงกลมปริศนาไว้และกำชับว่าอย่าเชื่อพวกไซบอร์ก แม่ของจิมเสียใจมากที่บ้านของเธอถูกทำลาย ทรัพยสินติดตัวก็ไม่มี ในขณะที่หมดหนทางอยู่นั้น จิมก็สามารถเปิดใช้งานวัตถุทรงกลมได้และภายในนั้น คือ แผนที่นำทางไปสู่ ดาวเคราะห์ซึ่งโจรสลัดผู้โด่งดังสมัยก่อนได้นำของที่เขาปล้นมาเก็บไว้ที่นี่ จิมจึงตั้งใจจะออกเดินทางเพื่อหาตามดาวดวงนั้น ด้านงานภาพนั้น ครั้งแรกที่ผู้เขียนดูเรื่องนี้ก็รู้สึกได้ถึงความล้ำสมัยบางอย่าง ซึ่งนั่นก็คือ การผสมระหว่างฉากพื้นหลังที่จะดูมีความสมจริงมากราวกับเป็น 3D โดยเฉพาะชิ้นส่วนของเครื่องจักรที่ดูสมจริง ตัดกับลายเส้นของตัวละครเป็นแบบการ์ตูนตามต้นฉบับของ Disney แต่ก็เข้ากันได้อย่างลงตัว แม้จะมีบางฉากที่รู้สึกได้เลยว่าภาพมันลอยๆ ถึงอย่างนั้นภาพรวมก็ไม่ได้ดูแย่เท่าไหร่นัก

แม้ว่าเรื่องราวของ Treasure Planet จะดูยิ่งใหญ่ระดับจักรวาล แต่เรื่องกลับไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนั้นเท่าไรนัก เพราะดูเหมือนว่าสิ่งที่ Treasure Planet ต้องการสื่อจริงๆจะไม่ใช่การเดินทางผจัญภัยในอวกาศสุดกว้างใหญ่ เพื่อตามหาสมบัติในตำนาน แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เรื่องต้องการสื่อ คือ เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกและตัวร้าย ที่คนดูต้องมาลุ้นว่าสุดท้ายแล้วจะจบลงเช่นไร ส่วนข้อเสียอีกอย่างหนึ่ง คือ แม้ Treasure Planet จะเป็นอนิเมชั่นของ Disney แต่ก็ไม่ได้มีบทเพลงน่าจดจำเหมือนเรื่องอื่นๆ
