ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความสำเร็จของมาดากัสการ์ในปี 2005 หรือกระแสของเนื้อเรื่องในช่วงเวลานั้นทำให้ Disney ได้ปล่อยงานภาพยนตร์อนิเมชั่นเกี่ยวกับสิงโตในสวนสัตว์และผองเพื่อน ที่ได้ออกผจญภัยในป่าธรรมชาติ เรื่อง The Wild แก๊งเขาดินซิ่งป่วนป่า ในปี 2006 แม้แนวเรื่องจะคล้ายกัน แต่The Wild ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตนเอง ซึ่งจะดีแค่ไหนต้องไปดูกัน
The Wild เรื่องราวลูกสิงโตที่อยากเป็นแบบเดียวกับพ่อของเขา
TheWild จะเล่าถึงเรื่องราวของ “แซมซัน” สิงโตในสวนสัตว์แห่งหนึ่งในนิวยอร์ก เขามีลูกหนึ่งตัวชื่อ “ไรอัน” แต่ปัญหา คือ แม้ไรอันจะมีอายุ 9 ปีแล้ว แต่เขายังไม่สามารถคำรามได้แบบสิงโต ยังร้องเหมือนเสียงแมวอยู่เลย แม้แซมซันจะไม่ได้กดดันไรอันเท่าไหร่นัก แต่ไรอันกลับรู้สึกแย่กับเรื่องนี้ จนนึกถึงนิทานที่เขาชอบให้พ่อเล่าประจำเกี่ยวกับเรื่องความกล้าหาญของพ่อเขาสมัยที่ยังอยู่ในป่า พ่อได้ต่อสู้กับฝูงวัวป่าจำนวนมากด้วยเสียงรำคาญอันทรงพลัง ไรอันจึงเชื่อว่า หากเขาได้กลับไปอยู่ในป่าแบบเดียวกับพ่อ เขาต้องคำรามได้สมกับเป็นสิงโตอย่างแน่นอน พอคิดได้อย่างนั้น ไรอันจึงหาทางหนีพ่อของเขา โดยการเข้าตู้คอนเทนเนอร์ที่กำลังถูกส่งไปเกาะร้าง เมื่อแซมซันรู้ตัวว่าไรอันหายไปจึงออกเดินทางไปที่เกาะนั้น พร้อมกับเพื่อนๆของเขา ไม่ว่าจะเป็น กระรอก “เบ็นนี่” กระรอกที่เป็นเพื่อนสนิทของแซมซัน รู้รอบรู้เรื่องราวโลกภายนอกสวนสัตว์มากมายและแอบชอบยีราฟสาว ชื่อว่า “บริดเจ็ท” สาวคนเดียวประจำกลุ่ม ทั้งยังมีงูชื่อ “ลาร์รี่” ที่มักหัวช้าและพูดอะไรไม่ดูสถานการณ์ และ “ไนเจล” หมีโคอาล่าผู้ชอบทำตัวน่ารำคาญและพูดมากร่วมก๊วนอีกด้วย
แม้The Wild จะเป็นอนิเมชั่น 3D ที่ฉายตั้งแต่ปี 2006 แต่คุณภาพของภาพนั้น ยังดูสวยงามสมจริงแม้เทียบกับมาตรฐานในยุคปัจจุบัน ที่เป็นเช่นนี้เพราะได้ผสมผสานระหว่างความสมจริงและความเป็นการ์ตูนได้อย่างลงตัว ทั้งการเคลื่อนไหวของตัวละครสัตว์ต่างๆ รวมทั้งฉากป่าธรรมชาติที่ดูสวยงาม ในส่วนของเนื้อเรื่องแอบจะคล้ายกับ “มาดากัสการ์” ที่มีตัวเอกเป็นสิงโตเหมือนกัน แต่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองน่าจนจำ คือ บทเพลงที่หากคุณได้ฟังแล้วต้องติดหูแน่นอน ส่วนข้อเสียคงหนีไม่พ้นบทบาทตัวละครบางตัวที่ออกจะน่ารำคาญ หรือบทน้อยจนไม่รู้ว่ามีไว้ทำไมกัน และหลายส่วนของเนื้อเรื่องที่ขาดๆเกินๆ เหมือนแค่อยากใส่ก็ใส่มาเพื่อให้เรื่องเดินต่อไปได้