The Simpsons เป็นการ์ตูนซีรีย์แนวซิตคอม เริ่มฉายในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 1989 ได้รับความนิยมจากการเสียดสีสังคมอเมริกาในทุกๆด้านอย่างถึงพริกถึงขิงผ่านครอบครัว “ซิมป์สัน” มีสมาชิกครอบครัว ได้แก่ “โฮเมอร์ ซิมป์สัน” หัวหน้าครอบครัว “มาร์จ ซิมป์สัน” ภรรยาของโฮเมอร์ “บาร์ต ซิมป์สัน” และ “ลิซ่า ซิมป์สัน” ลูกชายและลูกสาวของทั้งคู่ สุดท้ายคือ “แม็คกี้ ซิมป์สัน” ลูกสาวคนสุดท้องที่ยังเป็นเพียงเด็กทารก ซึ่งความนิยมของTheSimpsons กว้างขึ้นจนได้สร้างเวอร์ชั่น The Movie ในปี 2013 ที่แม้จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันเท่าไรนักกับเนื้อเรื่องในแบบซีรีส์ แต่ก็มีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจเลยทีเดียว ซึ่งจะเป็นเช่นไรนั้น ต้องมาดูกันในรีวิวนี้
The Simpsons Movie กับความวุ่นวายระดับเมือง

TheSimpsons Movie เปิดเรื่องมาด้วยปัญหาสิ่งแวดล้อมของแม่น้ำ “สปริงฟิลด์” ในเมืองที่ครอบครัวซิมป์สันอาศัยอยู่ โดยมี “ลิซ่า ซิมป์สัน” เป็นแกนนำที่ช่วยป่าวระกาศถึงความอันตรายจากการทิ้งขยะลงแม่น้ำที่กำลังถึงขีดจำกัด โชคดีที่ทุกคนในเมืองเห็นพ้องตรงกันว่า ต้องห้ามทุกคนทิ้งขยะได้แล้ว แม้แต่ชิ้นเดียวลงแม่น้ำก็ไม่ได้โดยเด็ดขาด ซึ่งสุดท้ายคนที่ทำทุกอย่างพัง คือ “โฮเมอร์ ซิมป์สัน” นั่นเอง ทำให้ทุกชาวเมืองต้องตกอยู่อันตรายถึงขั้นที่อาจถูกลบให้หายไปจากแผนที่โลก และผู้ที่จะกอบกู้

เมืองสปริงฟิลด์ได้ คือ ครอบครัวซิมป์สัน แต่จะทำได้อย่างไรนั้น สามารถติดตามTheSimpsons Movie ได้ใน Disney plus อย่างไรก็ดี แม้ The Movie จะมีประเด็นเคร่งเครียดเกี่ยวกับการกอบกู้เมือง ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่จริงๆแล้ว TheSimpsons Movie เป็นอนิเมชั่นที่เน้นนำเสนอเกี่ยวกับครอบครัวว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาหรือพ่อกับลูกที่ดีอีกเรื่องหนึ่ง สำหรับความสนุกของเรื่องนี้ก็ไม่ใช่อะไรอื่นใด นอกจากการเสียดสีสังคมอเมริกัน วัฒนธรรม รวมทั้งภาพยนตร์ดังๆหลายเรื่อง ที่นำเสนอออกมาให้เข้าถึงง่ายและสนุกสนาน ดูเพลินจนจบเรื่อง

ต้องยอมรับเลยว่าTheSimpsons Movie เป็นอนิเมชั่นอีกเรื่องหนึ่งที่ดูได้สนุก ทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จักTheSimpsons มาก่อน ด้วยธีมเรื่องที่เข้าใจง่าย มีการล้อเลียนวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ หรือฉากต่างๆในหนังดังๆหลายเรื่อง มาปะติปะต่อกันได้อย่างบันเทิงและสร้างสรรค์ ส่วนหนึ่งมาจากการแปลและพากย์เป็นภาษาไทยที่ทำออกมาเป็นอย่างดี แม้กระทั้งเรื่องราวสั้นๆที่เป็นส่วนประกอบรองก็มีความน่าสนใจพอๆกับเส้นเรื่องหลักเลยทีเดียว สำหรับคนที่คาดหวังว่าเนื้อเรื่องฉบับการตูนซีรีส์จะสนุก น่าติดตาม เข้าใจง่ายแบบเดียวกับ The Movie อาจต้องผิดหวัง เพราะมันแตกต่างกันคนละแนวเลย